กองทรัสต์ AIMIRT โชว์ฟอร์มแกร่ง ทุบสถิติปันผลสูงสุดติดต่อกัน 9 ไตรมาส ขึ้นแท่น Top 3 Industrial REIT ปันผลต่อปีสูงสุด วางเป้าหมายขยายพอร์ตทรัพย์สินแตะ 2 หมื่นล้านบาท

กองทรัสต์ AIMIRT ประกาศจ่ายปันผลงวดไตรมาส 2/2565 อัตรา 0.2225 บาทต่อหน่วย ทำสถิติสูงสุดติดต่อกัน 9 ไตรมาส ขึ้นแท่น Top 3 กลุ่มกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่สามารถจ่ายเงินปันผลต่อปีสูงที่สุด ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 6 - 7% ต่อปี โชว์อัตราการเช่าพื้นที่ทรัพย์สินเฉลี่ยสูงถึง 99% พร้อมเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ลงทุนทรัพย์สินใหม่เพิ่มเติมอีก 1 โครงการในปีนี้ วางเป้าหมายขยายพอร์ตทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแตะ 20,000 ล้านบาท ใน 5 ปีข้างหน้า ไม่ห่วงดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากโครงสร้างเงินกู้ส่วนใหญ่เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่

นางสาวญาณิชศา ชาติวุฒิกอบกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ AIMIRT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2/2565 มีรายได้รวม 217 ล้านบาท เติบโต 37% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่กำไรสุทธิ 144 ล้านบาท เติบโต 43% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว การเติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงนี้ สะท้อนมาในรูปแบบของการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอในทุกไตรมาส โดยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทรัสต์ AIMIRT ปี 2561 - 2564 ได้จ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกไตรมาส คิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ย 6 – 7% ต่อปี (คำนวณจากราคาปิดการซื้อขาย ณ สิ้นปีของแต่ละปี) ส่วนในปี 2565 ได้แก่ ไตรมาส 1/2565 จ่ายเงินปันผล 0.2215 บาทต่อหน่วย และไตรมาส 2/2565 ประกาศเตรียมจ่ายเงินปันผลอีก 0.2225 บาทต่อหน่วย ทำสถิติสูงสุดติดต่อกัน 9 ไตรมาส และเตรียมจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 กันยายน 2565 โดยที่ผ่านมากองทรัสต์ AIMIRT ติด Top 3 ของการจ่ายเงินปันผลต่อปีสูงที่สุดในกลุ่ม Industrial REIT มาโดยตลอด

แม้ว่าสถานการณ์ COVID-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศและธุรกิจในหลายภาคส่วน แต่กองทรัสต์ AIMIRT กลับได้รับผลกระทบน้อยมาก เนื่องจากมีการกระจายการลงทุนในทรัพย์สินในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพหลากหลายประเภท ทั้งคลังสินค้า โรงงาน คลังห้องเย็น และถังเก็บสารเคมีเหลว ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญและมีผู้เช่าที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นจากความต้องการเช่าพื้นที่ที่ได้รับอานิสงส์บวกจากปัจจัยของการฟื้นตัวในส่วนภาคการผลิตและการส่งออก และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแรง อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยของกองทรัสต์ AIMIRT จึงอยู่ในระดับที่สูงที่สุดมาโดยตลอด เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม Industrial REIT ที่อยู่ใน Top Tier ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 89% ขณะที่กองทรัสต์ AIMIRT นับตั้งแต่จัดตั้งอยู่ในระดับที่สูงกว่า 95% มาโดยตลอด และในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ระดับ 99% ตอกย้ำศักยภาพของกองทรัสต์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ กองทรัสต์ AIMIRT ยังได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือกับแนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาด ด้วยการวางแผนจัดการโครงสร้างทางการเงินให้มีส่วนประกอบของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและความผันผวนด้านต้นทุนทางการเงินได้เป็นอย่างดี

นายธนาเดช โอภาสยานนท์ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวเสริมว่า กองทรัสต์ AIMIRT มีแผนลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยได้กำหนดเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกทรัพย์สินที่ชัดเจนด้วยความละเอียดรอบคอบ อาทิ ทำเลที่ตั้งที่ดี มีการก่อสร้างและระบบสาธารณูปโภคที่ได้มาตรฐาน มีผู้เช่าที่มีคุณภาพ อยู่ในอุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การที่กองทรัสต์ AIMIRT เป็นกองทรัสต์อิสระ (Independent REIT) ยังช่วยเพิ่มโอกาสขยายการลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพจากผู้พัฒนาโครงการหลายราย มีความโปร่งใสในการบริหารงาน และคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยทรัสต์เป็นสำคัญ

ทั้งนี้ กองทรัสต์ AIMIRT มีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินรวมเป็น 20,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว จากปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินรวมอยู่ที่มากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 4 ปีนับจากจัดตั้งกองทรัสต์ ล่าสุด กองทรัสต์ AIMIRT อยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนในทรัพย์สินใหม่เพิ่มอีก 1 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าลงทุนได้ภายในปีนี้ หลังจากที่ได้เข้าลงทุนเพิ่มเติมสำเร็จในโครงการ Living & Facilities (LF) ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี ไปเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ของกองทรัสต์ AIMIRT ในปีหน้า จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการรับรู้รายได้ทรัพย์สินใหม่ที่ลงทุนเพิ่มเติมเต็มปีและจากทรัพย์สินใหม่ที่กำลังจะลงทุนเพิ่มเติม