ทรัสต์ AIMIRT พร้อมเข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ 9 ม.ค. นี้ ชูศักยภาพห้องเย็นและคลังสินค้าที่เข้าลงทุนในกรรมสิทธิ์ด้วยอัตราการเช่า 100%

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท (AIMIRT) พร้อมเข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 9 ม.ค. นี้ หลังปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์ที่ราคาหน่วยละ 10 บาท ได้ตามเป้าหมาย ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยอย่างล้นหลาม มั่นใจเป็นทางเลือกใหม่การลงทุนใน REIT ที่บริหารโดยผู้จัดการกองทรัสต์อิสระส่งผลดีต่อความเป็นกลางในการบริหารงานทุกขั้นตอน และจุดเด่นของกองทรัสต์ที่เข้าลงทุนในกรรมสิทธิ์ห้องเย็นและคลังสินค้าของกลุ่ม JWD และกรรมสิทธิ์คลังสินค้าโครงการทิพย์ 7 ของ TIP ที่มีอัตราการเช่าพื้นที่ (ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2560) เต็ม 100% โดยทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ในสภาพใหม่มีอายุเฉลี่ยเพียง 3.26 ปี 

นายอมร จุฬาลักษณานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท หรือ ‘AIMIRT' เปิดเผยว่า หน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท หรือ ‘AIMIRT’ ซึ่งเป็นกองทรัสต์ที่เป็นทางเลือกใหม่ภายใต้การบริหารโดยผู้จัดการกองทรัสต์อิสระที่ไม่ได้เป็นบริษัทในเครือของเจ้าของทรัพย์สิน ส่งผลดีต่อความเป็นกลางในการบริหารงานทุกขั้นตอน พร้อมเข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 9 มกราคม 2561 นี้ หลังจากที่ปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์ที่ราคาหน่วยละ 10 บาทได้ตามเป้าหมาย โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์อิสระ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของทรัสต์ AIMIRT ที่เข้าลงทุนครั้งแรกในกรรมสิทธิ์ที่ดิน อาคารคลังห้องเย็น และอาคารคลังสินค้า ของโครงการแปซิฟิค ห้องเย็นในย่านมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร โครงการเจดับเบิ้ลยูดี แปซิฟิค บนถนนสุวินทวงศ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และโครงการดาต้าเซฟ บนถนนสุวินทวงศ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ของกลุ่ม บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ ‘กลุ่ม JWD’ รวมทั้งเข้าลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดินและอาคารคลังสินค้าโครงการทิพย์ 7 ของบริษัท ทิพย์โฮลดิ้ง จำกัด หรือ ‘TIP’ ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ รวมทั้งสิ้น 9 ยูนิต มีพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 58,559 ตารางเมตร โดยห้องเย็นของกลุ่ม JWD อยู่ในทำเลที่เป็นแหล่งกระจายอาหารทะเลและอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ขณะที่คลังสินค้าของกลุ่ม JWD และ TIP ก็อยู่ในทำเลที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของการคมนาคมขนส่งและอุตสาหกรรมการผลิต โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560ทรัพย์สินทั้งหมดมีผู้เช่าเต็ม 100% และมีอายุเฉลี่ยประมาณ 3.26 ปี เท่านั้น

“เราเชื่อว่ากองทรัสต์จะมีผลการดำเนินงานที่ดีและให้ผลตอบแทนที่มีความสม่ำเสมอในระยะยาว โดยในอนาคตทรัสต์ AIMIRT ยังมีนโยบายจะเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม ทั้งการลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพของกลุ่ม JWD และ TIP รวมถึงการมองหาโอกาสเข้าลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อโอกาสการสร้างผลตอบแทนการลงทุน” นายอมร กล่าว

นายทิตวัฒน์ อัศเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า มีความมั่นใจในศักยภาพของทรัสต์ AIMIRT ซึ่งมีความโดดเด่นในฐานะเป็นกองทรัสต์กองแรกที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทห้องเย็น โดยห้องเย็นของกลุ่ม JWD ยังเป็นห้องเย็นแห่งแรกในมหาชัย ที่ได้รับใบรับรอง MSC Certificate (Marine Stewardship Council) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในด้านการทำประมงอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบของผู้มีส่วนได้เสียในทุกกระบวนการ สามารถลดผลกระทบจากปัญหา IUU Fishing จึงมีความต้องการใช้บริการห้องเย็นจากผู้ประกอบการที่ส่งออกอาหารทะเลเป็นจำนวนมาก ขณะที่คลังสินค้าของ TIP นั้น ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ บริเวณบางนาตราด กม. 19 จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตชั้นนำและการคมนาคมขนส่งที่สำคัญของประเทศไทย อยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิและท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง โดย TIP เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์อยู่ในธุรกิจพัฒนาและบริหารคลังสินค้าและโรงงานให้เช่ามากว่า 20 ปี ถือเป็น 1 ใน 3 ผู้พัฒนารายใหญ่ที่สุดในเขตกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก (ข้อมูลจากรายงานการศึกษาสภาวะตลาดโดย บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด : CBRE) มีผู้เช่าพื้นที่เป็นบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย มีกระจายตัวในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพอย่างเหมาะสม  จึงมีการบริหารความเสี่ยงในกลุ่มผู้เช่าได้เป็นอย่างดี  

ทั้งนี้ ทรัสต์ AIMIRT มีนโยบายจ่ายเงินปันผลเป็นรายไตรมาสในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อรอบปีบัญชี ทั้งนี้จากการประมาณการอัตราผลตอบแทนตามประมาณการงบกำไรขาดทุนของกองทรัสต์ตามสมมติฐานสำหรับรอบระยะเวลา 12 เดือน (1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2561) สอบทานโดยบริษัท แกรนท์
ธอนตัน จำกัด ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต อยู่ที่ 0.7377 บาทต่อหน่วย (อ้างอิงราคาหน่วยทรัสต์ที่ 10 บาทต่อหน่วย) หรือประมาณ 7.38% ในปีแรก โดยใช้สมมติฐานเงินกู้ยืมทั้งสิ้นประมาณ 665 ล้านบาท อย่างไรก็ดี เนื่องจากเงินกู้ยืมที่ใช้จริงเท่ากับประมาณ 590 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าที่แสดงในประมาณการ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง ซึ่งอาจทำให้กองทรัสต์มีอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าประมาณการได้ จึงเชื่อว่าจะเป็นกองทรัสต์ที่สามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอในระยะยาว และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจในภาวะดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบัน   

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วมและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม เปิดเผยว่า ทรัสต์ AIMIRT มีจุดเด่นที่การลงทุนในครั้งแรกเป็นการลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) ทั้งหมด และมีการกระจายความเสี่ยงการลงทุนในทรัพย์สิน 2 ประเภทคือ ห้องเย็นและคลังสินค้า ซึ่งประมาณว่าในปี 2561 กองทรัสต์จะมีรายได้จากทรัพย์สินประเภทห้องเย็นประมาณ 65% และจากคลังสินค้าประมาณ 35% นอกจากนี้ กลุ่ม JWD ยังได้ทำข้อตกลงเช่าห้องเย็นและคลังสินค้าของกลุ่ม JWD จากกองทรัสต์เพื่อประกอบการกิจการรับฝากสินค้า พร้อมจ่ายค่าเช่าแก่กองทรัสต์ตามข้อตกลงไม่ต่ำกว่า 10 ปี และกำหนดอัตราปรับเพิ่มขึ้นค่าเช่าทุกๆ 3 ปี ขณะที่ TIP ได้ทำข้อตกลงจะชำระส่วนต่างค่าเช่าและค่าบริการรวมต่อปีให้แก่กองทรัสต์เป็นรายไตรมาส ตลอดระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ หากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการในโครงการทิพย์ 7 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงทำให้มีความมั่นคงทางด้านรายได้ค่อนข้างสูง